ไม่ว่าจะด้วยความเชื่อที่เกี่ยวข้องกับความเคารพในธรรมชาติที่มีมาแต่โบราณ หรือด้วยพื้นที่บ้านในเมืองปกติที่อาจมีอาณาบริเวณไม่กว้าง เมื่อมีโอกาสได้ปลูกสร้างบ้านที่มีพื้นที่กว้างขวางแถมอยู่ท่ามกลางวงล้อมของธรรมชาติที่ร่มรื่น สถาปนิกของ ATELIER137 ARCHITECTURAL DESIGN OFFICE จากโตเกียว จึงไม่ลืมที่จะหยิบยกเรื่องความสอดประสานระหว่างตัวบ้านและป่ารอบข้างเอาไว้เป็นลักษณะเด่นของงาน โดยยังคงความเรียบง่าย น้อยแต่มากในสไตล์ญี่ปุ่นเอาไว้ จนเกิดเป็นบ้านไม้หลังงามกลางป่าเช่นในไอเดียบุคนี้
ความเรียบง่ายที่ปรากฏผ่านบ้านทรงกล่องกลางป่าหลังนี้ อาจดูเหมือนไม่ต้องออกแบบอะไรมาก แต่แท้ที่จริงแล้วได้มีการสอดแทรกหลักการทางสถาปัตยกรรมเข้าไปอย่างคำณวนมาถี่ถ้วน เช่น การเปิดบ้านในด้านใต้เพื่อรับลม ภาพสะท้อนของธรรมชาติที่ปรากฏอยู่ในแต่ละส่วนของบ้าน ทั้งที่มองจากด้านนอกหรือที่เห็นจากในบ้าน เป็นต้น
เพื่อให้สอดคล้องกับการตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ ตัวบ้านจึงควรได้รับการออกแบบให้สอดประสานกับความเป็นไปรอบนอก ทั้งการใช้วัสดุที่ทนต่อดินฟ้าอากาศ ความชื้น ขณะเดียวกันก็สามารถคงความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตภายในบ้าน และคงตัวตนของบ้านในสไตล์โมเดิร์นเช่นที่เจ้าของบ้านต้องการให้เป็นไปพร้อมๆ กัน
จากมุมนี้ แม้จะมีต้นไม้บังแต่เราสามารถเห็นตัวบ้านทั้งหมดได้ชัดเจน เป็นบ้านสองชั้นที่มีการเสริมเสาคอนกรีตไว้ด้านล่างอีกชั้น ซึ่งการเสริมเสาเหล่านี้นี่เองที่แสดงให้เห็นถึงการปรับตัวบ้านให้เข้ากับสภาพพื้นที่ ซึ่งเป็นพื้นลาดเอียง ขณะเดียวกันการยกเสาขึ้นมานี้ยังช่วยป้องกันในเรื่องความชื้นจากดินที่อาจจะเข้าสู่ตัวบ้านโดยตรงหากได้ด้วย
เรามักเห็นบ้านสไตล์ญี่ปุ่นหลายหลังที่ออกแบบโดยเน้นความเรียบง่าย สไตล์ Less is more บ้านหลังนี้ก็เช่นกัน ที่เราจะเห็นว่าภายในโถงนั่งเล่นขนาดใหญ่นี้มีเฟอร์นิเจอร์ตั้งอยู่แค่ไม่กี่ชิ้น และไม่ว่าจะเป็น โซฟา ชั้นวางของ หรือชุดโต๊ะเก้าอี้ ก็ล้วนทำขึ้นจากไม้ วัสดุเช่นที่เห็นใช้เป็นวัสดุหลักของบ้าน
แม้จะดูเป็นไม้เหมือนกันไปหมด แต่หากมองให้ลึกลงไปจะเห็นว่าสถาปนิกได้อาศัยความสวยงามจากตัวตนของวัสดุเหล่านี้มาสร้างความสวยงามให้พื้นที่ด้วย เช่นลายไม้ที่เป็นวัสดุปูพื้น หรือการเรียงไม้ขนาดแตกต่างกันเพื่อแบ่งแยกบริเวณโดยนัย
การจัดพื้นที่ห้องโถงด้านทิศใต้ให้เปิดแบบโอเพ่นแพลน และกั้นผนังด้านที่เปิดสู่ป่าด้วยกระจกใสแทน ทำให้บริเวณนี้ดูกว้าง ทั้งยังมอบความต่อเนื่องระหว่างพื้นที่ภายในบ้านและนอกบ้านไปพร้อมๆ กัน ส่วนอีกปัจจัยหนึ่งที่สร้างความต่อเนื่องระหว่างภายในตัวบ้านและระเบียงได้เช่นกัน ก็คือการออกแบบหลังคาและเพดานให้เชื่อมต่อทั้งในบ้านและนอกบ้าน ลองสังเกตไม้ประดับฝ้าเพดานเหนือระเบียงและกระจกดูก็ได้ อาจทำให้เข้าใจถึงคอนเซ็ปต์นี้ได้ดีขึ้น
นอกจากจะใช้เฟอร์นิเจอร์น้อยชิ้นแล้ว การใช้สีในบ้านนี้ยังเป็นไปในโทนเดียวกันอีกด้วย อย่างตู้เก็บของติดผนังและโซฟาที่เป็นสีน้ำตาล โทนเดียวกับสีพื้น ขณะเดียวกันอุปกรณ์เครื่องทำความร้อนในบ้านอย่างแผงฮีทเตอร์ ก็สามารถนำมาปรับใช้เป็นของตกแต่งที่สร้างเส้นสายให้ตัวบ้านได้อย่างเท่และไม่ซ้ำใคร
ห้องครัวของบ้านเต็มไปด้วยเครื่องใช้ทันสมัยสีเงินแวววาว แต่สามารถทำให้อยู่ในโทนเรียบแต่เท่เช่นเดียวกับส่วนอื่นของบ้านที่ใช้ไม้ตกแต่งได้ ด้วยการสร้างเคาน์เตอร์บาร์ขนาดเล็กมากั้นบังพื้นที่ไว้ ขณะเดียวกันก็บรรจุตู้เย็นและเตาไว้ในตู้บิวต์อินติดผนังเพื่อความเรียบร้อย
เช่นที่เคยกล่าวถึงไปแล้ว ว่าสถาปนิกได้ออกแบบบ้านเพื่อให้สอดรับกับธรรมชาติด้านนอก พวกเขาเลือกใช้ข้อได้เปรียบของบ้านที่มีธรรมชาติโอบล้อมมาใช้ให้เป็นประโยชน์ เช่นการติดตั้งผนังกระจกเพื่อให้ได้มองวิวสบายตานอกบ้านได้ชัดเจน และจากหลายจุดในบ้าน ไม่เว้นแม้แต่ตรงลานพักบันไดเช่นที่เห็นในภาพ
บ้านสองชั้นหลังนี้เป็นบ้านสไตล์โมเดิร์น แต่ก็สอดแทรกความเป็นญี่ปุ่นไว้ด้วย เช่นมีห้องญี่ปุ่นตั้งอยู่ ห้องญี่ปุ่นที่สามารถใช้เป็นห้องอเนกประสงค์ห้องนี้แม้จะคงเอกลักษณ์ความเป็นญี่ปุ่นด้วยประตูกระดาษ เสื่อตาตามิ แต่ก็ไปกันได้ดีกับบ้านสไตล์โมเดิร์น ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นความเรียบง่ายเหมือนกัน ขณะเดียวกันก็ไปกันได้ดีกับธรรมชาติรอบบ้านด้วย เช่นการปูตาตามิสลับลาย มีส่วนที่สีออกเขียวเข้ากับป่าสนด้านนอก ยิ่งเมื่อเปิดประตูสไลด์บานกว้างออก ก็ยิ่งทำให้เกิดความกลมกลืนที่น่าประทับใจ
ปิดท้ายกันด้วยภาพตัวบ้านด้านนอกกันอีกครั้ง กับหลังคาบ้านชั้นล่างที่ลาดเอียงเป็นมุมองศาเดียวกับเนินที่ตั้งบ้าน หรือจะเป็นการใช้ไม้ประดับตกแต่งด้านนอกอาคารในช่วงบนของตัวบ้าน สิ่งเล็กๆ น้อยๆ ที่เราชื่นชอบอีกอย่างคงเป็นบานหน้าต่างของบ้านที่สะท้อนภาพธรรมชาติด้านนอกอยู่เสมอ ไม่ว่าจะยามเปิดหรือปิด ทำให้เห็นถึงความสอดประสานของตัวบ้านและนอกบ้านอยู่เสมอๆ